วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ไทม์ไลน์ของการพัฒนาแอพไอโฟน(Apple App Store) และค่าใช้จ่ายในแต่ละขั้นตอน ยาวหน่อยแต่ชัวร์

 

APPLE STORE CONNECT

ไทม์ไลน์ของการพัฒนาแอพไอโฟน(Apple App Store) และค่าใช้จ่ายในแต่ละขั้นตอน ยาวหน่อยแต่ชัวร์

1. สร้างแอปเปิลแอคเค้าท์ไอดี(Apple ID) อันนี้สำคัญมากห้ามลืม ต้องมีมือถือ iphone  ด้วยไหมไม่แน่ใจ(ฟรีหรือตามราคาไอโฟน) สมัครไว้นานกว่า 3 ปี แอคเค้าท์นี้ได้มาแน่ๆ 

apple id

 

หากซื้อไอโฟนสักเครื่องเพราะต้องมีไม่เช่นนั้นจะติดตั้งแอพบน Apple Store ไม่ได้เลย

2. สร้างไอดีบน Macincloud ใช้เวลา 2 วัน เดือนละประมาณ 25 เหรียญหรือ 800 บาท หรือซื้อ MacBook สักตัวราคาเริ่มต้นที่ 36,000 บาท 

macincloud

 

แนะนำให้ใช้ Macincloud ย่อมเยาว์กว่า การใช้งานอาจต้องให้เวลาเช่ากันนานเพราะต้องใช้งานอัพเดทตลอดเวลา ที่ผ่านมาผู้เขียนใช้ยาวกว่า 3 เดือนแล้ว อันนี้ตัดสินใจซื้อ MacBook สักตัวก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกัน MacBook สำคัญไหม? ตอบเลยหากไม่มีก็จบ เพราะ Apple Store ไม่ให้ใช้เครื่องมืออื่นใดที่ทำงานบน Mac ผู้เขียนใช้โปรแกรม Transporter และ Xcode ส่งข้อมูลขึ้น หากไม่ได้โปรแกรมกลุ่มนี้ ส่งขึ้น Apple Store ไม่ได้แน่นอน แต่ MacOS ก็ทำงานคล้ายๆกัน Linux นั่นแหล่ะ ชุดคำสั่งเหมือนกัน คล้ายกัน ใครใช้งานลินุกส์คล่อง MacOS ก็งานง่ายๆ แค่นั้นเอง

transporter


3. สมัครเป็นผู้พัฒนาแอปเปิล(Apple Developer) อันนี้สำคัญมาก ใช้เวลา 3 วัน

Apple Developer

 

ถ้าไม่มีถือว่าจบ Apple Developer ต้องจ่ายเพิ่มอีกปีละ 3,590 บาท ได้มาเมื่อ 23/6/2564 แอคเค้าท์นี้เป็นหัวใจของ การพัฒนาแอพพลิเคชั่นของ IOS เลยก็ว่าได้ ผู้เขียนเคยคุยกับเพื่อนที่เป็นนักพัฒนาแอปเปิลแอพพลิเคชั่นเหมือนกัน แต่ดูเหมือนเขาไม่เข้าใจว่าต้องใช้แอคเค้าท์นี้ไปทำไม ในเมื่อบริษัทฯของเขาจัดการเรื่องนี้ให้ เหมือนว่าเราขาดในส่วนนี้ไปทำให้กระบวนการความคิดเราขาดหายไป ต่อขั้นตอนการพัฒนาแอพพิเคชั่นบน IOS ไม่ติดเรียกอย่างนั้นก็ว่าได้ แอปเปิลจะต้องสร้าง Certificates ทุกครั้งที่จะแนบไปกับแอพ พอเราไม่มี Apple Developer Account ก็ไม่สามารถสร้าง Certificates, Identifiers & Profiles ได้ไปต่อไม่ได้แน่นอน ไม่มีโอกาสคอมไพล์ผ่าน จะเอาไป publish ที่ไหนก็ไม่ได้ ผู้เขียนยังติดอยู่ว่าหากต้องการเอาแอพไปแสดงบน tutuapp ต้องคอมไพล์ยังไง อันนี้ค่อยศึกษาไปก่อน


4. ต้องสมัครเป็นผู้ขายบน(App Store Connect) อีกประมาณ 1 วัน ฟรี  ได้เมื่อ 28/6/2564 

Apple Store Connect

 

ขั้นตอนนี้เข้าขั้นอดทนและใช้เวลา โปรแกรมนี้เรียกว่า "App Store Small Business Program" หรือที่เรียกกันว่าขั้นตอนการจ่ายเงินบนแอพนั่นแหล่ะ เงื่อนไขมีอยู่ 2 แบบ คือ 1 แบบฟรี 2 คือแบบคิดเงิน การสมัครแบบฟรีง่ายสบายมาก แต่แบบที่ 2 งานยากอีกครั้งเพราะบังคับให้ต้องสมัคร และต้องมีหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของอเมริกา ผู้เขียนต้องกรอกใบสมัคร  Employer Idenfication Number(EIN) แบบฟอร์ม SS-4 แฟกซ์ไปสมัคร กำหนดเวลาไม่ได้เลยว่าจะได้รับการตอบกลับเมื่อไร หากใครผ่านขั้นตอนนี้ไปได้งานอื่นๆ ก็ดูเบาไปทีเดียว

5. ขั้นตอนการพัฒนาต้องใช้ X-code ได้รีลีช(release)เพื่อส่งขึ้น TestFlight Beta ได้เมื่อ 28/6/2564 

testflight

 

และ TestFlight ให้ผ่านแอพเบต้าแรก 29/6/2564 หลังจากมีผู้ทดสอบไป 3 ท่านติดตั้งไป 4 ครั้ง ลองใช้ browserstack.com ดี สะดวกแต่แพงมาก ตกปีละ 10,500 บาท(300USD) ขั้นตอนนี้กลายเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าต้องส่งแอพพลิเคชั่นใหม่เข้า TestFlight จริงๆไม่บังคับ ยกเว้นว่าเราต้องการทดสอบแอพจริงๆจังๆก่อนออกผลิตภัณฑ์ เรียกว่าจ้างนักทดสอบก่อนเพื่อลดข้อผิดพลาด บางคนติดปัญหาการของอนุมัติยากมาก ก็เลยเลี่ยงไปทำแบบ TestFlight การใช้งาน TestFlight ก็ไม่ยากเพียงแค่ได้แอคเค้าท์ของแอปเปิลไอดีมาให้ก็เพิ่มเข้าไปการทดสอบแบบนี้มี 2แบบคือเป็นนักทดสอบภายในหรือว่านักทดสอบภายนอก หากเป็นนักทดสอบภายนอก Teltflightต้องได้รับการอนุมัติก่อนเช่นกัน แต่สูงสุดของ TestFlight ที่ติดตั้งได้ประมาณ 100 คนเท่านั้น

6. ส่งเพื่อขอเผยแพร่บนแอปเปิลสโตร์ เมื่อ 30/6/2564 

สถานะก็จะอัพเดทมาเรื่อยๆ เริ่มจาก "Thanks for submitting" จากนั้นก็เปลี่ยนเป็น "Waiting for Review" และเป็น "In Review" โดนปฏิเสธครั้งแรกเมลตอบกลับมาจาก Itunes Store หนักเลยแจ้งว่า "5. 2.5 Legal: Intellectual Property - Apple Products" โค๊ดก็ไม่ได้เขียนเองทั้งหมดด้วย ส่งอัพเดทกลับไปวันนั้นแหล่ะ ในที่สุดแอปเปิลสโตร์ก็ออกสถานะมาให้เป็น "Ready for Sale" แต่ยังไม่สามารถใช้งานได้ หากสถานะแอปเปิลสโตร์เรายังดำเนินการสมัครไม่ครบถ้วน

7. อีกวันต่อมาผลข้อมูลจากApp Store Connect อนุมัติ รออีก1วันเพื่อแสดงผลบนแอปสโตร์ 

ครั้งแรกที่ไปค้นข้อมูลบนเน็ตดูหากเราได้รับสถานะ "Ready fo Sale"แล้วใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมงแอพของเราจะต้องไปแสดงบน Apple Store แต่ไม่ใช่ครับ ผู้เขียนได้รับสถานะ "Ready for Sale" เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 64 ยาวนานกว่า 1 เดือน เพราะสถานะบนแอปเปิลสโตร์ยังไม่ได้รับการอนุมัติ

8.​ คิดว่าผ่านข้อ​ 7​ จะง่ายไม่ใช่​อีก​ 7​ วันต่อมามีเมล์จาก​Apple​ Developer​ ว่าขอบคุณ​ที่สมัคร​เข้าร่วม​ App​ Store​ small​ business​ program

แต่เราต้องการข้อมูล​เพิ่มเติม​ agreement, tax, Bank​ account ผู้เขียนไม่รอช้า รีบเข้าไปกรอกข้อมูลทันทีแต่ทำยังไงก็แล้วแต่ติดขัดที่หัวข้อ tax id คือตัวเลข 9 ตัวของอเมริกา ไม่ใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชนหรือเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของบริษัทแต่อย่างใด


9.​ ติดที่​ tax​ ไอดีของอเมริกา​ หรือ​EIN​ กว่าจะขอได้ใช้เวลาอีก​ 3​ สัปดาห์​ ล่าสุด​ 5​ ส.ค.​64​ 

Employer Identification Number

 

กรอกข้อมูล​ได้ครบ​ รอพิจารณา การขอหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของอเมริกา(EIN)ก็ไม่ใช้เรื่องง่าย และเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เงินและเวลา ขั้นตอนนี้หมดค่าใช้จ่ายไปประมาณ 50USD ใช้เวลารอนานประมาณ 1 เดือน ลองผิดลองถูก เข้าไปกรอกใบสมัครแบบฟอร์ม SS-4 ดาวน์โหลดได้ที่ IRS หรือ DEPARTMENT OF THE THEASURY INTERNAL REVENUE SERVICE สมัครส่งแฟกซ์ไปคิดว่า 4 วันจะได้รับก็เงียบ จนต้องหาวิธีอื่นๆ จนบัดนี้ก็ยังเงียบอยู่ ถึงบอกว่าของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ

10.​ งานสุดท้ายก่อนอนุมัติ​ต้องเข้าไปสมัคร​ App Store Small Business Program  เมื่อวันที่​ 7​ ส.ค.64

หน่วยงานพัฒนาแอปเปิลไม่ยอมสิ้นสุดขั้นตอนง่ายๆ แม้จะทำให้ทุกอย่าง ทุกๆขั้นตอน ก็ยังบังคับให้เข้าไปกรอกข้อมูลการสมัคร App Store Small Business Program ให้ครบถ้วน ระยะเวลาขั้นตอนต่างๆ ก็จะมีเวลาประมาณ 2-3 วันเสมอมา ทำให้การรีบของผู้เขียนต้องกลายเป็นทำใจ ค่อยเป็นค่อยไป อย่ารีบร้อนเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นก็ลาขาดจากกันแน่นอน ทำไปบ่นไป

 

11.​ แอพแรกคลอดบนแอปเปิล​สโตร์​ 8​ ส.ค.​ 64

จนในที่สุดแอพแรกของผู้เขียนก็คลอดออกได้บน Apple Store ได้ถึง 2 แอพพร้อมๆ กัน เป็นการฉลองวันที่ 8/8/2564 อย่างแท้จริง  

CMFOOD
GPS VEHICLE IOS APP



สรุปเลยว่างานเหนื่อยงานหินก็ขั้นตอนการพัฒนาแอพพลิเคชั่น IOS ของค่ายแอปเปิลนี่แหล่ะ เฉพาะจำคำศัพท์แปลกๆ ชื่อย่อ ชื่อแอพ ชื่อโปรแกรมที่จำเป็นต้องใช้งานก็มากมาย แถมวิธีการมีหลายๆ ขั้นตอนต้องติดต่อกับหน่วยงานราชการ หน่วยงานเอกชน ข้อจำกัดมากมาย แถมนโยบายการอนุมัติแอพพลิเคชั่นก็ยากมากกว่าที่ควรจะเป็น สำคัญเลยแอปเปิลไม่เคยเขียนขั้นตอนไว้ให้ว่าต้องทำอย่างไร ลุยไปทีละขั้นตอน ติดแต่ละปัญหาก็ต้องตามหาวิธีด้วยตัวเอง ยากมากจริงๆสำหรับมือใหม่ หรือใครก็ตามที่เพิ่งเริ่มต้น ต้องเตรียมความพร้อมหลายๆ เรื่องทั้งเรื่องงบประมาณ ทุกอย่างต้องใช้ แต่อย่างไรก็ตามพอแอพพลิเคชั่นเริ่มคลอดออกมาได้ก็เริ่มหายเหนื่อย ตามการคาดการณ์ของผู้เขียนหากต้องรับทำพร้อม publish บนแอพสโตร์ค่าใช้จ่ายต่อ1แอพคงต้องมีหลักห้าหมื่นบาททีเดียว ขอขอบคุณ GPS TRACKING จีพีเอสไทย มั่นใจฉับไว พร้อมให้บริการ ทั่วประเทศแล้ววันนี้ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น